Customer Reviews

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับเป็นผลงานเล่มที่ 2 ของหนังสือชุดการผจญภัยของแฮร์รี่ พอตเตอร์กับผองเพื่อนที่สร้างความมหัศจรรย์ให้กับนักอ่านทั่วโลก เนื้อหาของภาคนี้เป็นตอนที่แฮร์รี่ พอตเตอร์ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ ในปีนี้มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นกับโรงเรียนเนื่องจากมีข่าวลือที่ว่าห้องแห่งความลับได้ถูกเปิดออกอีกครั้งโดยทายาทของซัลลาซาร์ สลิธีรีน(หนึ่งในผู้ก่อตั้งฮอกวอตส์) อีกทั้งยังเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายขึ้นอีกเมื่อพ่อมดแม่มดที่เกิดจากมักเกิ้ลถูกคาถาหรือคำสาปแช่งจนทำให้กลายเป็นหิน หนึง่ในนั้นคือเฮอร์ไมโอนี่ เพื่อนสนิทของแฮร์รี่และรอน ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเขาทั้งสองที่จะต้องตามหาความจริงของเรื่องราวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ห้องแห่งความลับรวมทั้งสาเหตุที่ทำให้นักเรียนมักเกิ้ลกลายเป็นหินให้ได้ เพื่อที่จะช่วยทุกคนให้ปลอดภัย
ความน่าสนใจของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาคนี้อยู่ที่ผู้อ่านจะไม่รู้เลยว่าใครเป็นผู้เปิดห้องแห่งความลับ และใครเป็นทายาทของสลิธีริน ยิ่งทำให้เรื่องราวน่าติดตามและตื่นเต้นเข้าไปอีก แฮร์รี่เองในภาคนี้ก็รู้ว่าตนเองเป็นพาร์เซลเม้าท์ (สามารถพูดกับงูได้) ทำให้ถูกนักเรียนคนอื่นๆสงสัยและหวาดระแวงว่าแฮร์รี่นี่แหล่ะที่เป็นทายาทของสลิธีริน หรือแม้กระทั่งแฮกริดก็ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นผู้เปิดห้องแห่งความลับจนถึงขั้นถูกนำตัวไปคุกอัซคาบันกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ในภาคนี้ผู้อ่านยังจะได้พบกับเรื่องราวใหม่ๆของโลกเวทมนตร์ที่แตกต่างไปจากภาคแรกอย่างมากมาย แฮร์รี่กับรอนจะต้องดื่มน้ำยาสรรพรสเพื่อกลายร่างเป็นแครบและกอยล์และสามารถเข้าไปยังห้องนั่งเล่นรวมของสลิธีรินเพื่อไปสืบความลับของมัลฟอยได้ แต่ที่ผมชอบมากที่สุดก็คือช่วงท้ายของเรื่องที่แฮร์รี่และรอนจะต้องเดินทางเข้าไปในห้องแห่งความลับที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีใครทราบว่าอยู่ตรงไหน เขาจะต้องเจอกับอะไรบ้างในนั้น แล้วใครจะเป็นทายาทของสลิธีรินและผู้เปิดห้องแห่งความลับ สามารถอ่านได้ในหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับที่ผมการันตีได้เลยว่าสนุกไม่แพ้ภาคอื่นๆ แต่อย่างใด

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับเป็นผลงานเล่มที่ 2 ของหนังสือชุดการผจญภัยของแฮร์รี่ พอตเตอร์กับผองเพื่อนที่สร้างความมหัศจรรย์ให้กับนักอ่านทั่วโลก เนื้อหาของภาคนี้เป็นตอนที่แฮร์รี่ พอตเตอร์ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ ในปีนี้มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นกับโรงเรียนเนื่องจากมีข่าวลือที่ว่าห้องแห่งความลับได้ถูกเปิดออกอีกครั้งโดยทายาทของซัลลาซาร์ สลิธีรีน(หนึ่งในผู้ก่อตั้งฮอกวอตส์) อีกทั้งยังเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายขึ้นอีกเมื่อพ่อมดแม่มดที่เกิดจากมักเกิ้ลถูกคาถาหรือคำสาปแช่งจนทำให้กลายเป็นหิน หนึง่ในนั้นคือเฮอร์ไมโอนี่ เพื่อนสนิทของแฮร์รี่และรอน ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเขาทั้งสองที่จะต้องตามหาความจริงของเรื่องราวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ห้องแห่งความลับรวมทั้งสาเหตุที่ทำให้นักเรียนมักเกิ้ลกลายเป็นหินให้ได้ เพื่อที่จะช่วยทุกคนให้ปลอดภัย
ความน่าสนใจของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาคนี้อยู่ที่ผู้อ่านจะไม่รู้เลยว่าใครเป็นผู้เปิดห้องแห่งความลับ และใครเป็นทายาทของสลิธีริน ยิ่งทำให้เรื่องราวน่าติดตามและตื่นเต้นเข้าไปอีก แฮร์รี่เองในภาคนี้ก็รู้ว่าตนเองเป็นพาร์เซลเม้าท์ (สามารถพูดกับงูได้) ทำให้ถูกนักเรียนคนอื่นๆสงสัยและหวาดระแวงว่าแฮร์รี่นี่แหล่ะที่เป็นทายาทของสลิธีริน หรือแม้กระทั่งแฮกริดก็ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นผู้เปิดห้องแห่งความลับจนถึงขั้นถูกนำตัวไปคุกอัซคาบันกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ในภาคนี้ผู้อ่านยังจะได้พบกับเรื่องราวใหม่ๆของโลกเวทมนตร์ที่แตกต่างไปจากภาคแรกอย่างมากมาย แฮร์รี่กับรอนจะต้องดื่มน้ำยาสรรพรสเพื่อกลายร่างเป็นแครบและกอยล์และสามารถเข้าไปยังห้องนั่งเล่นรวมของสลิธีรินเพื่อไปสืบความลับของมัลฟอยได้ แต่ที่ผมชอบมากที่สุดก็คือช่วงท้ายของเรื่องที่แฮร์รี่และรอนจะต้องเดินทางเข้าไปในห้องแห่งความลับที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีใครทราบว่าอยู่ตรงไหน เขาจะต้องเจอกับอะไรบ้างในนั้น แล้วใครจะเป็นทายาทของสลิธีรินและผู้เปิดห้องแห่งความลับ สามารถอ่านได้ในหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับที่ผมการันตีได้เลยว่าสนุกไม่แพ้ภาคอื่นๆ แต่อย่างใด

แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟินิกซ์ เป็นนิยายเล่มที่ 5 (จากทั้งหมด 7 เล่ม)ของหนังสือชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากแฟนคลับทั่วโลก ผลงานการประพันธ์ของ เจ.เค.โรว์ลิ่ง นักเขียนชื่อดังชาวอังกฤษผู้ปลุกประกายโลกของเวทมนตร์ออกมาให้แก่นักอ่านทุกเพศทุกวัยได้ร่วมผจญภัยไปกับแฮร์รี่ พอตเตอร์และเหล่าผองเพื่อนอย่างสนุกนาน
ภาคนี้เป็นตอนที่แฮร์รี่ พอตเตอร์และเพื่อนๆของเขาอายุ 15 ปี อยู่ชั้นปีที่ 5 ของโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ จากเหตุการณ์ของภาคที่แล้วที่แฮร์รี่ได้พบกับการกลับมาของลอร์ดโวลเดอมอร์ เจ้าแห่งศาสตร์มืดที่ใครๆต่างก็เกรงกลัว รวมทั้งผู้เสพความตายซึ่งเป็นสมุนผู้จงรักภักดีของเขา จากเหตุการณ์นี้เองส่งผลให้เซดริก ดิกกอรี่ ถูกฆ่าตายจากเงื้อมมือของลอร์ดโวลเดอมอร์ แต่แฮร์รี่หนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิดจากการช่วยเหลือของพ่อแม่ของเขา
จากเหตุการณ์ดังกล่าวต่อเนื่องมาจนถึงภาคนี้ แฮร์รี่ถูกตีตราว่าเป็นเด็กจอมลวงโลกเนื่องจากไม่มีใครเชื่อว่าเจ้าแห่งศาสตร์มืดจะหวนกลับมา มีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่เชื่อในคำพูดของแฮร์รี่ หนึ่งในนั้นคือดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์จึงได้ก่อตั้ง “ภาคีนกฟินิกซ์” ขึ้นมาอีกครั้ง (ภาคีนกฟินิกซ์เคยมีมาแล้วครั้งหนึ่งโดยในตอนนั้นพ่อแม่ของแฮร์รี่ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกด้วย) เพื่อเป็นองค์กรที่ไว้ต่อต้านโวลเดอมอร์และผู้เสพความตาย และนั่นก็คือที่มาของแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟินิกซ์นั่นเอง
แน่นอนว่าความสนุก ตื่นเต้น เร้าใจในโลกของเวทมนตร์ (ซึ่งเป็นเสน่ห์ของหนังสือชุดนี้) ของภาคนี้ยังมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม เจ.เค. ยังไม่ทำให้ผู้อ่านอย่างผมผิดหวังหรืออยากเลิกติดตามแต่อย่างใด แต่ยังทำให้เรื่องราวเข้มข้นและน่าติดตามเข้าไปอีกด้วยการกลับมาของเจ้าแห่งศาสตร์มืดและสมุนทำให้โลกเวทมนตร์ที่สงบสุขต้องปั่นป่วนอีกครั้ง นอกจากนี้แฮร์รี่และดัมเบิลดอร์ยังมีศัตรูเพิ่มขึ้นมาอีกนั่นคือกระทรวงเวทมนตร์ซึ่งไม่เชื่อว่าโวลเดอมอร์กลับมาแล้ว แต่คิดว่าแฮร์รี่และดัมเบิลดอร์โกหกเพื่อที่จะยึดอำนาจของกระทรวงเวทมนตร์ไว้เสียเอง ในภาคนี้ฮอกวอตส์จึงถูกคุกคามและแทรกแซงจากกระทรวงเวทมนตร์อย่างหนักโดยการส่งโดโลเรส อัมบริดจ์ เข้ามาสร้างความหมั่นไส้ และรังเกียจต่ออาจารย์และนักเรียนในฮอกวอตส์เป็นอย่างมาก และยังทำให้ผู้อ่านอย่างผมรู้สึกเช่นนี้ไปด้วย รู้สึกเกียจอัมบริดจ์เอามากๆๆๆๆๆ
ความโดดเด่นของภาคนี้ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ แต่ผู้อ่านจะได้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละครที่เติบโตเป็นวัยรุ่นอย่างแฮร์รี่อย่างชัดเจน ทั้งด้านอารมณ์ที่ขี้หงุดหงิด เอาแต่ใจตัวเองซึ่งแตกต่างไปจากแฮร์รี่ในภาคก่อนหน้านื้ที่เป็นเด็กน้อยไร้เดียงสา หรือแม้กระทั่งความรักต่อเพศตรงข้าม ใช่แล้ว ในภาคนี้แฮร์รี่จะได้จูบกับเด็กผู้หญิงในโรงเรียนด้วย แต่จะเป็นใครนั้นก็ต้องอ่านกันเอาเอง
เอาเป็นว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ภาคีนกฟินิกซ์ก็ยังเป็นหนังสือที่สนุก น่าติดตามสมกับฝีมือของเจ.เค.โรว์ลิ่งอยู่ดี โดยเฉพาะตอนท้ายที่ตื่นเต้นสุดๆ เพราะแฮร์รี่และเพื่อนๆต้องบุกเข้าไปในกองปริศนากระทรวงเวทมนตร์ จนทำให้เกิดความสูญเสียที่ใหญ่หลวงแก่แฮร์รี่ ฉากนี้เป็นฉากที่เศร้าสุดๆ เจ.เค.สามารถสื่อความเศร้าในตัวแฮร์รี่ออกมาได้เป็นอย่างดี ดังนั้นผู้ที่เป็นแฟนตัวยงของแฮร์รี่ไม่ควรพลาดที่จะหาเล่มนี้มาอ่าน เพราะแฮร์รี่เล่มนี้ให้ครบทุกอรรถรสจริงๆ

แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟินิกซ์ เป็นนิยายเล่มที่ 5 (จากทั้งหมด 7 เล่ม)ของหนังสือชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากแฟนคลับทั่วโลก ผลงานการประพันธ์ของ เจ.เค.โรว์ลิ่ง นักเขียนชื่อดังชาวอังกฤษผู้ปลุกประกายโลกของเวทมนตร์ออกมาให้แก่นักอ่านทุกเพศทุกวัยได้ร่วมผจญภัยไปกับแฮร์รี่ พอตเตอร์และเหล่าผองเพื่อนอย่างสนุกนาน
ภาคนี้เป็นตอนที่แฮร์รี่ พอตเตอร์และเพื่อนๆของเขาอายุ 15 ปี อยู่ชั้นปีที่ 5 ของโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ จากเหตุการณ์ของภาคที่แล้วที่แฮร์รี่ได้พบกับการกลับมาของลอร์ดโวลเดอมอร์ เจ้าแห่งศาสตร์มืดที่ใครๆต่างก็เกรงกลัว รวมทั้งผู้เสพความตายซึ่งเป็นสมุนผู้จงรักภักดีของเขา จากเหตุการณ์นี้เองส่งผลให้เซดริก ดิกกอรี่ ถูกฆ่าตายจากเงื้อมมือของลอร์ดโวลเดอมอร์ แต่แฮร์รี่หนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิดจากการช่วยเหลือของพ่อแม่ของเขา
จากเหตุการณ์ดังกล่าวต่อเนื่องมาจนถึงภาคนี้ แฮร์รี่ถูกตีตราว่าเป็นเด็กจอมลวงโลกเนื่องจากไม่มีใครเชื่อว่าเจ้าแห่งศาสตร์มืดจะหวนกลับมา มีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่เชื่อในคำพูดของแฮร์รี่ หนึ่งในนั้นคือดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์จึงได้ก่อตั้ง “ภาคีนกฟินิกซ์” ขึ้นมาอีกครั้ง (ภาคีนกฟินิกซ์เคยมีมาแล้วครั้งหนึ่งโดยในตอนนั้นพ่อแม่ของแฮร์รี่ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกด้วย) เพื่อเป็นองค์กรที่ไว้ต่อต้านโวลเดอมอร์และผู้เสพความตาย และนั่นก็คือที่มาของแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟินิกซ์นั่นเอง
แน่นอนว่าความสนุก ตื่นเต้น เร้าใจในโลกของเวทมนตร์ (ซึ่งเป็นเสน่ห์ของหนังสือชุดนี้) ของภาคนี้ยังมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม เจ.เค. ยังไม่ทำให้ผู้อ่านอย่างผมผิดหวังหรืออยากเลิกติดตามแต่อย่างใด แต่ยังทำให้เรื่องราวเข้มข้นและน่าติดตามเข้าไปอีกด้วยการกลับมาของเจ้าแห่งศาสตร์มืดและสมุนทำให้โลกเวทมนตร์ที่สงบสุขต้องปั่นป่วนอีกครั้ง นอกจากนี้แฮร์รี่และดัมเบิลดอร์ยังมีศัตรูเพิ่มขึ้นมาอีกนั่นคือกระทรวงเวทมนตร์ซึ่งไม่เชื่อว่าโวลเดอมอร์กลับมาแล้ว แต่คิดว่าแฮร์รี่และดัมเบิลดอร์โกหกเพื่อที่จะยึดอำนาจของกระทรวงเวทมนตร์ไว้เสียเอง ในภาคนี้ฮอกวอตส์จึงถูกคุกคามและแทรกแซงจากกระทรวงเวทมนตร์อย่างหนักโดยการส่งโดโลเรส อัมบริดจ์ เข้ามาสร้างความหมั่นไส้ และรังเกียจต่ออาจารย์และนักเรียนในฮอกวอตส์เป็นอย่างมาก และยังทำให้ผู้อ่านอย่างผมรู้สึกเช่นนี้ไปด้วย รู้สึกเกียจอัมบริดจ์เอามากๆๆๆๆๆ
ความโดดเด่นของภาคนี้ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ แต่ผู้อ่านจะได้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละครที่เติบโตเป็นวัยรุ่นอย่างแฮร์รี่อย่างชัดเจน ทั้งด้านอารมณ์ที่ขี้หงุดหงิด เอาแต่ใจตัวเองซึ่งแตกต่างไปจากแฮร์รี่ในภาคก่อนหน้านื้ที่เป็นเด็กน้อยไร้เดียงสา หรือแม้กระทั่งความรักต่อเพศตรงข้าม ใช่แล้ว ในภาคนี้แฮร์รี่จะได้จูบกับเด็กผู้หญิงในโรงเรียนด้วย แต่จะเป็นใครนั้นก็ต้องอ่านกันเอาเอง
เอาเป็นว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ภาคีนกฟินิกซ์ก็ยังเป็นหนังสือที่สนุก น่าติดตามสมกับฝีมือของเจ.เค.โรว์ลิ่งอยู่ดี โดยเฉพาะตอนท้ายที่ตื่นเต้นสุดๆ เพราะแฮร์รี่และเพื่อนๆต้องบุกเข้าไปในกองปริศนากระทรวงเวทมนตร์ จนทำให้เกิดความสูญเสียที่ใหญ่หลวงแก่แฮร์รี่ ฉากนี้เป็นฉากที่เศร้าสุดๆ เจ.เค.สามารถสื่อความเศร้าในตัวแฮร์รี่ออกมาได้เป็นอย่างดี ดังนั้นผู้ที่เป็นแฟนตัวยงของแฮร์รี่ไม่ควรพลาดที่จะหาเล่มนี้มาอ่าน เพราะแฮร์รี่เล่มนี้ให้ครบทุกอรรถรสจริงๆ

หนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์เป็นหนังสือเล่มแรกในหนังสือชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่เริ่มต้นเล่าเรื่องราวการผจญภัยของแฮร์รี่ พอตเตอร์กับผองเพื่อนในโลกเวทมนตร์ได้อย่างดีเยี่ยม จนทำให้ใครต่อใคร (รวมทั้งผม) หลงรักหนังสือชุดนี้มากๆ และติดตามต่อจนครบทั้ง 7 เล่มจบอย่างสมบูรณ์
ในความคิดของผมเล่มนี้ถือว่าสนุกเอามากๆ ผมคิดว่ายากนะครับที่จะสามารถแต่งหนังสือแนวแฟนตาซีที่ทำให้มีคนติดตามมากๆได้ โดยเฉพาะเล่ม 1 นั้น ถือเป็นเล่มแรกที่หลายๆคนต้องอ่าน ถ้าไม่สนุกก็เป็นอันว่าจบกัน แต่เจ.เค.โรว์ลิ่ง สามารถทำได้ครับ โดยเจ.เค.เล่าเรื่องให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนว่าตนเองได้เข้าไปอยู่ในโลกเดียวกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ได้ โลกที่มีเวทมนตร์ ไม้กายสิทธิ์ ผู้คุมวิญญาณ มังกร เงือก เอลฟ์ ก๊อบลิน และของวิเศษอีกหลายอย่างมากมายที่โลกแห่งความเป็นจริงไม่มี ถือว่าเป็นนวนิยายแนวแฟนตาซีที่แต่งได้สมจริงเป็นอย่างมากและทำให้ผู้อ่านหลายๆคนคล้อยตามได้ จนถึงขั้นมีแฟนคลับตัวยงของหนังสือเรื่องนี้กันเลยทีเดียว
เนื้อเรื่องของแฮร์รี่ พอตเตอร์ภาคนี้จะเล่าเรื่องราวของเด็กชายวัย 11 ปี ที่ทราบว่าตนเองไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่เป็นผู้วิเศษหรือที่เรียกว่าพ่อมด และได้สิทธิ์เข้าเรียนที่โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในโลกเวทมนตร์ จนทำให้เขาได้พบกับเพื่อนสนิทและร่วมผจญภัยไปกับเขานั่นคือ รอน วิสลีย์ และ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ นอกจากนี้ผู้เขียนยังได้สร้างปมให้กับตัวละครแฮร์รี่โดยให้พ่อและแม่ของเขาเสียชีวิตจากการสังหารของพ่อมดฝ่ายมืดที่ชื่อว่า ลอร์ดโวลเดอมอร์ ทำให้เนื้อเรื่องสนุก ตื่นเต้น และท้าทายยิ่งขึ้น โดยในภาคนี้ภารกิจแรกที่แฮร์รี่ต้องทำคือปกป้องศิลาอาถรรพ์จากลอร์ดโวลเดอมอร์ให้ได้
ความน่าตื่นเต้นไม่ได้มีเพียงเท่านั้น แต่แฮร์รี่ยังต้องผจญภัยไปกับด่านกับดักเวทมนตร์ที่ปกป้องศิลาอาถรรพ์ไว้ ไม่ว่าจะเป็น ด่านหมาสามหัวตัวใหญ่มากๆๆๆ ที่มีชื่อว่าปุกปุยยืนเฝ้าทางเข้าเอาไว้ แล้วยังมีด่านกับดักมาร ด่านกุญแจจำนวนหลายพันดอกที่แฮร์รี่จะต้องขี่ไม้กวาดเพื่อไล่จับให้ได้ ด่านโทรล์ยักษ์ แต่ด่านที่ผมชอบมากที่สุดก็คือด่านต่อมา ด่านหมากรุกพ่อมด เป็นด่านที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของรอนในเรื่องการเล่นหมากรุกพ่อมดที่เก่งเอามากๆ ด่านยาพิษ และสุดท้ายจนแฮร์รี่พบและต่อสู้กับลอร์ดโวลเดอมอร์เพื่อปกป้องศิลอาถรรพ์เอาไว้ แต่แฮร์รี่จะปกป้องเอาไว้ได้หรือไม่ หรือโวลเดอมอร์จะได้ครอบครองศิลอาถรรพ์อันนี้ต้องอ่านเอาเองจะดีที่สุดครับ
เรื่องนี้แน่นอนว่าให้ทั้งความสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจ และก็จะลุ้นอยู่ตลอดเวลา แต่ก็แฝงไว้ด้วยข้อคิดมากมายด้วยเช่นกัน เช่น เรื่องราวมิตรภาพของเพื่อนทำให้ก่อเกิดความเสียสละ, ความโลภ ความอยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตนเองย่อมทำให้เกิดผลเสียตามมา, ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามและสามารถปกป้องจากอันตรายได้ และสุดท้ายเจ.เค.ก็สามารถจบเรื่องราวในภาคแรกได้อย่างดีจนทำให้ผมเฝ้ารอติดตามเล่มต่อๆไปด้วยใจจดจ่อว่าจะเป็นอย่างไร

หนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์เป็นหนังสือเล่มแรกในหนังสือชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่เริ่มต้นเล่าเรื่องราวการผจญภัยของแฮร์รี่ พอตเตอร์กับผองเพื่อนในโลกเวทมนตร์ได้อย่างดีเยี่ยม จนทำให้ใครต่อใคร (รวมทั้งผม) หลงรักหนังสือชุดนี้มากๆ และติดตามต่อจนครบทั้ง 7 เล่มจบอย่างสมบูรณ์
ในความคิดของผมเล่มนี้ถือว่าสนุกเอามากๆ ผมคิดว่ายากนะครับที่จะสามารถแต่งหนังสือแนวแฟนตาซีที่ทำให้มีคนติดตามมากๆได้ โดยเฉพาะเล่ม 1 นั้น ถือเป็นเล่มแรกที่หลายๆคนต้องอ่าน ถ้าไม่สนุกก็เป็นอันว่าจบกัน แต่เจ.เค.โรว์ลิ่ง สามารถทำได้ครับ โดยเจ.เค.เล่าเรื่องให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนว่าตนเองได้เข้าไปอยู่ในโลกเดียวกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ได้ โลกที่มีเวทมนตร์ ไม้กายสิทธิ์ ผู้คุมวิญญาณ มังกร เงือก เอลฟ์ ก๊อบลิน และของวิเศษอีกหลายอย่างมากมายที่โลกแห่งความเป็นจริงไม่มี ถือว่าเป็นนวนิยายแนวแฟนตาซีที่แต่งได้สมจริงเป็นอย่างมากและทำให้ผู้อ่านหลายๆคนคล้อยตามได้ จนถึงขั้นมีแฟนคลับตัวยงของหนังสือเรื่องนี้กันเลยทีเดียว
เนื้อเรื่องของแฮร์รี่ พอตเตอร์ภาคนี้จะเล่าเรื่องราวของเด็กชายวัย 11 ปี ที่ทราบว่าตนเองไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่เป็นผู้วิเศษหรือที่เรียกว่าพ่อมด และได้สิทธิ์เข้าเรียนที่โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในโลกเวทมนตร์ จนทำให้เขาได้พบกับเพื่อนสนิทและร่วมผจญภัยไปกับเขานั่นคือ รอน วิสลีย์ และ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ นอกจากนี้ผู้เขียนยังได้สร้างปมให้กับตัวละครแฮร์รี่โดยให้พ่อและแม่ของเขาเสียชีวิตจากการสังหารของพ่อมดฝ่ายมืดที่ชื่อว่า ลอร์ดโวลเดอมอร์ ทำให้เนื้อเรื่องสนุก ตื่นเต้น และท้าทายยิ่งขึ้น โดยในภาคนี้ภารกิจแรกที่แฮร์รี่ต้องทำคือปกป้องศิลาอาถรรพ์จากลอร์ดโวลเดอมอร์ให้ได้
ความน่าตื่นเต้นไม่ได้มีเพียงเท่านั้น แต่แฮร์รี่ยังต้องผจญภัยไปกับด่านกับดักเวทมนตร์ที่ปกป้องศิลาอาถรรพ์ไว้ ไม่ว่าจะเป็น ด่านหมาสามหัวตัวใหญ่มากๆๆๆ ที่มีชื่อว่าปุกปุยยืนเฝ้าทางเข้าเอาไว้ แล้วยังมีด่านกับดักมาร ด่านกุญแจจำนวนหลายพันดอกที่แฮร์รี่จะต้องขี่ไม้กวาดเพื่อไล่จับให้ได้ ด่านโทรล์ยักษ์ แต่ด่านที่ผมชอบมากที่สุดก็คือด่านต่อมา ด่านหมากรุกพ่อมด เป็นด่านที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของรอนในเรื่องการเล่นหมากรุกพ่อมดที่เก่งเอามากๆ ด่านยาพิษ และสุดท้ายจนแฮร์รี่พบและต่อสู้กับลอร์ดโวลเดอมอร์เพื่อปกป้องศิลอาถรรพ์เอาไว้ แต่แฮร์รี่จะปกป้องเอาไว้ได้หรือไม่ หรือโวลเดอมอร์จะได้ครอบครองศิลอาถรรพ์อันนี้ต้องอ่านเอาเองจะดีที่สุดครับ
เรื่องนี้แน่นอนว่าให้ทั้งความสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจ และก็จะลุ้นอยู่ตลอดเวลา แต่ก็แฝงไว้ด้วยข้อคิดมากมายด้วยเช่นกัน เช่น เรื่องราวมิตรภาพของเพื่อนทำให้ก่อเกิดความเสียสละ, ความโลภ ความอยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตนเองย่อมทำให้เกิดผลเสียตามมา, ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามและสามารถปกป้องจากอันตรายได้ และสุดท้ายเจ.เค.ก็สามารถจบเรื่องราวในภาคแรกได้อย่างดีจนทำให้ผมเฝ้ารอติดตามเล่มต่อๆไปด้วยใจจดจ่อว่าจะเป็นอย่างไร